แอลอี แพลนทส์ โปรตีน และ อะมิโน แอซิด คอมเพล็กซ์ กลิ่นวานิลลา
แอลอี แพลนทส์ โปรตีน และ อะมิโน แอซิด คอมเพล็กซ์ กลิ่นวานิลลา
(LE Plant Protein and Amino Acid Complex Vanilla Flavour)
ผงโปรตีนจากพืช (ถั่วลันเตา) และ กรดอะมิโน BCAA
- มีคอเลสเตอรอลต่ำ ไขมันต่ำ มีแคลอรี่น้อยกว่าโปรตีนจากสัตว์
- ผู้ที่แพ้นมวัว นมถั่วเหลือง ผู้ที่ทานมังสวิรัติ-วีแกน ไม่ทานเนื้อสัตว์ สามารถทานได้
เพิ่มน้ำมันข้าวโอ้ต ข้าวกล้อง และ สารพรีไบโอติก
- ช่วยเพิ่มสารอาหาร กระตุ้นจุลินทรีย์เรื่องระบบย่อยอาหาร
- ช่วยเรื่องการดูดซึมสารอาหาร
- เพื่อช่วยให้ร่างกายย่อยโปรตีนจากพืชได้ดียิ่งขึ้น
ถั่วลันเตา เป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ดีที่สุด ให้โปรตีนมากกว่าเนื้ออกไก่ ในปริมาณที่เท่ากัน
ร่างกายดูดซึมได้ดี ไม่เป็นภาระหนัก เสริมเส้นใยอาหาร คาร์โบไฮเดรต และวิตามินอื่นๆ
LE Plant Protein and Amino Acid Complex Vanilla Flavour (แอลอี แพลนทส์ โปรตีน และ อะมิโน แอซิด คอมเพล็กซ์ กลิ่นวานิลลา)
1 กระปุก มี 365 แคปซูล
ส่วนประกอบสำคัญ ต่อ 1 ช้อนควง( 30 กรัม)
- โปรตีนสกัดจากถั่วลันเตา (Pea Protein) 22,822.5 มก
- ให้ปริมาณโปรตีน (Equiv. Protein) 18,000 มก.
- ผงข้าวโอ๊ต (Oat Powder) 1,875 มก
- อินูลิน (Inulin) 1,537 มก.
- แอล-กลูตามีน (L-Glutamine) 127,919 มก.
- แอล-ไอโซลิวซีน (L-Isoleucine) 316,751 มก.
- แอล-วาลีน (L-Valine) 316,751 มก.
- ไกลซีน (Glycine) 50 มก.
- โปรตีนจากข้าวกล้อง (Brown Rice Protein) 30 มก.
- ปราศจากกลูเตน | Non-GMO | มังสวิรัติ
ขนาดรับประทาน
ผสมผงโปรตีน 1 ช้อนกับน้ำเย็น 8 ออนซ์ ในแก้วหรือเครื่องปั่น ดื่มวันละ 1 ครั้ง ตอนเช้าก่อนอาหาร หรือตามคำแนะนำของแพทย์
ฆอ.เลขที่ 307/2564
อย.เลขที่ 10-3-02663-5-0011
ผลิตที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้มาตรฐานการผลิตของ NSF®
การเก็บรักษา :
- เก็บในที่แห้งและพ้นแสง
- ที่อุณหภูมิห้อง
- ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
คำเตือน :
- เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน
- ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค
References :
1. Aliment Pharmacol Ther. 2004 Apr 1;19(7):779-88.
2. Clin Gastroenterol Hepatol. 2005 Jul;3(7):705-13.
3. Clin Gastroenterol Hepatol. 2014 Jun;12(6):1012-8.e1.
4. World J Gastroenterol. 2013 Nov 21;19(43):7620-9.
5. Int J Sport Nutr Exerc Metab. 2007 Dec;17(6):595-607.
6. J Sports Med Phys Fitness. 2011 Mar;51(1):82-8.
7. J Nutr. 2006 Feb;136(2):529S-532S.